ถอดรหัสวิธีคิดค่าไฟแบบเจาะลึกที่คุณต้องรู้

ในยุคที่ค่าไฟฟ้าพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ การเข้าใจวิธีการคิดค่าไฟฟ้าไม่ใช่เพียงแค่ความรู้ แต่เป็นทักษะจำเป็นที่จะช่วยให้คุณควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างแม่นยำ หลายครอบครัวยังคงมองใบแจ้งหนี้ค่าไฟฟ้าเหมือนดูภาษาต่างดาว ไม่รู้ว่าตัวเลขเหล่านั้นมาจากไหน

เมื่อค่าไฟแต่ละเดือนกลายเป็นปริศนาที่คนไทยถอดรหัสไม่ได้ จุดเริ่มต้นที่จะนำไปสู่การประหยัดพลังงานอย่างยั่งยืน คือการเข้าใจโครงสร้างและวิธีค่าไฟฟ้า วันนี้เราจะพาคุณไปถอดรหัสทุกรายละเอียดของการคิดค่าไฟฟ้า ตั้งแต่การอ่านมิเตอร์ไฟฟ้า ไปจนถึงการวิเคราะห์ใบแจ้งหนี้อย่างเชี่ยวชาญ

หน่วยไฟฟ้า (ยูนิต) – รากฐานของการคำนวณที่ต้องเข้าใจก่อน

หน่วยไฟฟ้าหรือ “ยูนิต” (Unit) คือหัวใจหลักของการคิดค่าไฟฟ้า โดยมีชื่อทางเทคนิคว่า “กิโลวัตต์-ชั่วโมง” (kWh) ซึ่งหมายถึงการใช้พลังงานไฟฟ้า 1 กิโลวัตต์ เป็นเวลา 1 ชั่วโมง

สูตรคำนวณ

วิธีคิดหน่วยไฟฟ้าจากเครื่องใช้ไฟฟ้า:

การคำนวณหน่วยไฟฟ้าที่ใช้ต่อวันเป็นเรื่อที่ใครก็สามารถทำได้ด้วยตัวเอง เพียงแค่รู้จักสูตรคำนวณง่าย ๆ ดังนี้

“หน่วยไฟฟ้า =  กำลังไฟ (Watt) x เวลาใช้งาน (ชม./วัน)”

เครื่องใช้ไฟฟ้า กำลังไฟ (Watt) เวลาใช้งาน (ชม./วัน) หน่วยไฟที่ใช้/วัน
พัดลม 50 20 1 kWh
ตู้เย็น 150 24 3.6 kWh
แอร์ 1000 8 8 kWh

 

การเข้าใจหลักการง่าย ๆ นี้จะช่วยให้คุณเข้าใจและสามารถประเมินการใช้ไฟฟ้าของเครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างแม่นยำ พร้อมในการวางแผนการใช้ไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ถอดรหัสตัวเลขบนมิเตอร์ไฟฟ้า – จุดเริ่มต้นของการคำนวณที่หลายคนมองข้าม

ก่อนที่เราจะคำนวณค่าไฟฟ้าได้นั้น มิเตอร์ไฟฟ้าคือหนังสือเล่มแรกที่เราต้องอ่านให้ออก โดยตัวเลขบนมิเตอร์จะแสดงการใช้ไฟฟ้าสะสมตั้งแต่เริ่มติดตั้ง ซึ่งเราจะพามาดูวิธีคิดค่าไฟจากมิเตอร์ไฟฟ้า เพื่ออ่านค่าจำนวนหน่วยที่ใช้และคำนวนค่าไฟได้อย่างแม่นยำ

วิธีอ่านมิเตอร์ไฟฟ้าแบบดิจิตอล

  • ตัวเลขหลักหน้าจอแสดงค่าสะสม kWh
  • หากมีทศนิยม ให้มองเฉพาะตัวเลขหน้าจุดทศนิยม
  • บันทึกค่าทุกเดือนในวันที่เดียวกันเพื่อความแม่นยำ

วิธีอ่านมิเตอร์ไฟฟ้าแบบเข็ม

  • อ่านจากซ้ายไปขวา (หลักหมื่น, พัน, ร้อย, สิบ, หน่วย)
  • หากเข็มอยู่ระหว่างตัวเลข ให้เลือกตัวเลขที่เข็มผ่านมาแล้ว
  • สังเกตทิศทางการหมุนของเข็มแต่ละหลัก

การคำนวณการใช้ไฟจากมิเตอร์ไฟฟ้า: การใช้ไฟฟ้า (kWh) = ค่าอ่านมิเตอร์เดือนปัจจุบัน – ค่าอ่านมิเตอร์เดือนที่แล้ว

ตัวอย่าง: หากเดือนนี้อ่านได้ 15,250 kWh และเดือนที่แล้ว 15,100 kWh การใช้ไฟเดือนนี้ = 15,250 – 15,100 = 150 kWh

กางบิลค่าไฟแล้วตามหาความจริง – รายการที่ซ่อนอยู่ในใบแจ้งหนี้

บิลค่าไฟฟ้าไม่ได้มีแค่ตัวเลขการใช้ไฟและจำนวนเงินที่ต้องจ่าย แต่ยังมีข้อมูลสำคัญมากมายที่สามารถนำมาวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าของได้ การเข้าใจวิธีคิดค่าไฟฟ้าจากบิล จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คุณสามารถคิดคำนวณค่าไฟฟ้าได้เองในอนาคต

รายการสำคัญในบิลค่าไฟ:

  1. ข้อมูลการอ่านมิเตอร์
  • วันที่อ่านครั้งปัจจุบันและครั้งที่แล้ว
  • ค่าอ่านมิเตอร์ทั้งสองครั้ง
  • จำนวนวันในรอบบิล
  1. รายละเอียดค่าไฟฟ้า
  • ค่าพลังงานไฟฟ้าแยกตามขั้น
  • ค่า Ft (Fuel Tariff)
  • ค่าบริการรายเดือน
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม
  1. ข้อมูลเปรียบเทียบ
  • การใช้ไฟเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว
  • ค่าเฉลี่ยการใช้ไฟต่อวัน
  • กราฟแสดงแนวโน้มการใช้ไฟ
  1. ข้อมูลที่หลายคนไม่สังเกต
  • รหัสผู้ใช้ไฟ และประเภทการใช้ไฟ
  • ตัวคูณมิเตอร์ (สำหรับมิเตอร์ประเภทพิเศษ)
  • ข้อมูลการชำระเงินครั้งล่าสุด

การวิเคราะห์บิลค่าไฟอย่างละเอียดช่วยให้เราเข้าใจรูปแบบการใช้ไฟของตัวเอง ทำให้สามารถคำนวณค่าไฟฟ้าด้วยตนเอง เพื่อตรวจสอบความถูกต้องและวางแผนการปรับปรุงได้การใช้งานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ 

สูตรคำนวณค่าไฟฟ้าฉบับเข้าใจง่าย – เรื่องยากที่เราทำให้เป็นเรื่องง่าย

หลังจากทราบปริมาณไฟฟ้า (ยูนิต) ที่ใช้แล้ว การคิดค่าไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ใช้โครงสร้างแบบขั้นบันได (Progressive Rate) ซึ่งยิ่งใช้มากอัตราต่อหน่วยยิ่งแพง 

โครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าฐานแบบขั้นบันได ปี 2568

สำหรับผู้ใช้ไฟไม่เกิน 150 หน่วย/เดือน (อัตรา 1.1)

15 หน่วยแรก (หน่วยที่ 1-15)  

2.3488 บาท/ยูนิต

10 หน่วยต่อไป (หน่วยที่ 16-25)

2.9882 บาท/ยูนิต

10 หน่วยต่อไป (หน่วยที่ 26-35) 

3.2405 บาท/ยูนิต

65 หน่วยต่อไป (หน่วยที่ 36-100)

3.6237 บาท/ยูนิต

20 หน่วยต่อไป (หน่วยที่ 101-150)

3.7171 บาท/ยูนิต

ค่าบริการ: 8.19 บาท/เดือน

 

สำหรับผู้ใช้ไฟเกิน 150 หน่วย/เดือน (อัตรา 1.2)

ขั้นที่ 1-5: 3.2484 บาท/ยูนิต
ขั้นที่ 6: 151-400 ยูนิต 4.2218 บาท/ยูนิต
ขั้นที่ 7: เกิน 400 ยูนิต 4.4217 บาท/ยูนิต

ค่าบริการ: 24.62 บาท/เดือน

ูตรคำนวณค่าไฟฟ้าขั้นพื้นฐาน:

(ค่าไฟฟ้าฐาน + ค่าไฟฟ้าแปรผัน Ft.) x ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% = ค่าไฟฟ้าสุทธิที่ต้องจ่าย

 

ตัวอย่างวิธืคิดค่าไฟจากบิลค่าไฟฟ้า

ขั้นตอนวิธีคิดค่าไฟด้วยตัวเอง

  1. คำนวณค่าไฟฟ้าฐาน = คำนวณค่าไฟฟ้าตามขั้นบันได + ค่าบริการ
  2. คำนวณค่า Ft = หน่วยไฟฟ้า × ค่า Ft ปัจจุบัน
  3. คำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม = (ค่าไฟฟ้าฐาน + Ft ) × 7%

ตัวอย่างการคำนวณค่าไฟ: หากใช้ไฟฟ้า 180 ยูนิต

ขั้นที่ 1: ค่าไฟฟ้าฐาน

  • 150 ยูนิตแรก : 150 x 3.2484 = 487.26 บาท
  • ยูนิตที่ 151-180 : 30 × 4.2218 = 126.65 บาท
  • ค่าบริการตามอัตรา 1.2 = 24.62 บาท
  • รวมค่าไฟฟ้าฐาน = 638.53 บาท

ั้นที่ 2: ค่า Ft (0.3672 บาท/หน่วย)

  • 180 × 0.3672 = 66.10 บาท

ขั้นที่ 3: ภาษีมูลค่าเพิ่ม

  • (638.53 + 66.10) × 7% = 49.32 บาท

 

“ค่าไฟฟ้าฐาน + ค่า Ft + ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% = ค่าไฟฟ้าสุทธิ

638.53 + 66.10  + 49.32 = 753.95 บาท”

 

เจาะลึกความแตกต่างของค่าไฟในแต่ละพื้นที่

ค่าไฟฟ้าในประเทศไทยแตกต่างกันตามเขตการจำหน่าย แม้จะมีการควบคุมจาก กกพ. (คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน) แต่ยังมีปัจจัยเฉพาะพื้นที่ที่ส่งผลต่อการคิดค่าไฟฟ้าขั้นสุดท้าย

ความแตกต่างตามเขตการจำหน่าย

การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (EGAT) เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าหลัก แต่การจำหน่ายแบ่งออกเป็น 3 หน่วยงานใหญ่:

  1. การไฟฟ้านครหลวง (MEA)
  • ครอบคลุมกรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ
  • มีระบบโครงข่ายที่ทันสมัยและมีเสถียรภาพสูง
  • ค่า Ft (Fuel Tariff) มักจะเสถียรเนื่องจากปริมาณการใช้ไฟสูง
  1. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA)
  • ครอบคลุม 74 จังหวัดทั่วประเทศ
  • แบ่งออกเป็น 4 ภาค: เหนือ อีสาน กลาง ใต้
  • ค่าไฟอาจมีความแตกต่างเล็กน้อยตามระยะทางในการส่งจ่าย
  1. การไฟฟ้าเอกชน (กรณีพิเศษ)
  • เกาะต่างๆ ที่ไม่เชื่อมโยงระบบหลัก
  • ใช้ระบบผลิตไฟฟ้าแยก ทำให้ค่าไฟสูงกว่าเขตอื่น

ปัจจัยที่สร้างความแตกต่าง

  1. ค่าการสูญเสียในระบบส่งจ่าย พื้นที่ห่างไกลจากแหล่งผลิตไฟฟ้าจะมีการสูญเสียพลังงานในสายส่งมากกว่า ส่งผลให้ต้นทุนการจำหน่ายสูงขึ้น
  2. ค่าบำรุงรักษาโครงข่าย พื้นที่ที่มีภูมิประเทศซับซ้อน เช่น ภาคเหนือและภาคใต้ มีค่าบำรุงรักษาเส้นทางส่งไฟสูงกว่าพื้นที่ราบ
  3. ความหนาแน่นของผู้ใช้ไฟ เขตเมืองใหญ่มีผู้ใช้ไฟหนาแน่น ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลง ในขณะที่พื้นที่ชนบทมีต้นทุนการให้บริการสูงกว่า
  4. แหล่งพลังงานท้องถิ่น พื้นที่ที่มีแหล่งผลิตไฟฟ้าใกล้เคียง เช่น เขื่อนไฟฟ้า โรงไฟฟ้าถ่านหิน หรือแก๊สธรรมชาติ อาจมีข้อได้เปรียบด้านต้นทุน

การเข้าใจความแตกต่างในแต่ละพื้นที่ จะช่วยให้คุณวางแผนการใช้ไฟฟ้าและการลงทุนในระบบประหยัดพลังงานได้เหมาะสมกับพื้นที่อยู่อาศัยได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น

ประเภทผู้ใช้ไฟฟ้าก็มีผลกับอัตราค่าไฟฟ้าเช่นกัน

นอกจากพื้นที่แล้ว ประเภทการใช้งานไฟฟ้าก็ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ที่กำหนดและควบคุมอัตราค่าไฟฟ้าอยู่เช่นกัน นั้นคือประเภทการใช้งาน โดนอัตราค่าไฟฟ้าที่ใช้ในการคำนวณค่าไฟ จะแบ่งออกตามประเภทการใช้งานไฟฟ้า ดังนี้

ประเภทผู้ใช้ไฟฟ้าและอัตราค่าไฟ

  1. บ้านพักอาศัย
  • ใช้ระบบขั้นบันไดตามที่กล่าวมาแล้ว
  • มีค่าไฟฟรี 15 kWh แรก
  • เหมาะสำหรับครัวเรือนทั่วไป
  1. กิจการขนาดเล็ก
  • อัตราค่าไฟเหมาจ่าย 3.77 บาท/kWh
  • ไม่มีค่าไฟฟรี
  • เหมาะสำหรับร้านค้า สำนักงานเล็ก
  1. กิจการขนาดกลางและใหญ่
    • มีค่าไฟตามเวลาใช้งาน (TOU)
    • แบ่งเป็นช่วงเวลา On-Peak และ Off-Peak
  • มีค่าพลังงานสูงสุด (Demand Charge)
  1. อุตสาหกรรม
  • อัตราค่าไฟต่ำสุด แต่มีเงื่อนไขการใช้ไฟสูง
  • ต้องมีการใช้ไฟขั้นต่ำตามที่กำหนด
  • มีระบบปรับค่าไฟตามปัจจัยต้นทุน

การเลือกประเภทผู้ใช้ไฟที่เหมาะสม สำหรับธุรกิจที่มีการใช้ไฟฟ้าสูง การเปลี่ยนประเภทผู้ใช้ไฟอาจช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ต้องพิจารณารูปแบบการใช้ไฟ ปริมาณการใช้ไฟ และเงื่อนไขต่างๆ อย่างละเอียด

คำถามที่พบบ่อยในการคิดค่าไฟ

Q: ทำไมค่าไฟเดือนนี้สูงผิดปกติ แม้ใช้ไฟเท่าเดือนที่แล้ว?

A: สาเหตุหลักมาจากค่า Ft (Fuel Tariff) ที่เปลี่ยนแปลงทุกเดือนตามราคาเชื้อเพลิง นอกจากนี้ จำนวนวันในรอบบิล อุณหภูมิเฉลี่ย และการปรับปรุงอัตราค่าไฟจาก กกพ. ก็ส่งผลกระทบเช่นกัน

Q: ค่า Ft คืออะไร และทำไมเปลี่ยนทุกเดือน?

A: Ft (Fuel Tariff) คือค่าปรับราคาเชื้อเพลิงที่สะท้อนต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจริง เปลี่ยนแปลงตามราคาน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหินในตลาดโลก ปัจจุบันประมาณ 0.15-0.25 บาทต่อหน่วย

Q: มิเตอร์ไฟบ้านเสีย จะส่งผลต่อการคิดค่าไฟอย่างไร?

A: หากมิเตอร์เสีย การไฟฟ้าจะใช้วิธีประมาณการจากค่าเฉลี่ยการใช้ไฟในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และจะมีการปรับยอดชดเชยเมื่อมิเตอร์กลับมาทำงานปกติ

Q: ใช้โซลาร์เซลล์แล้วต้องจ่ายค่าไฟไหม? 

A: แบ่งออกเป็น 2 กรณี หากใช้ระบบ On-grid หรือ Hybrid จะยังต้องจ่าย แต่จำนวนเงินจะลดลงอย่างมาก เพราะระบบโซลาร์เซลล์ช่วยลดการใช้ไฟจากการไฟฟ้า กลางวันใช้ไฟจากแผงโซลาร์ และสลับใช้ไฟจากการไฟฟ้าในช่วงกลางคืน แต่ถ้าใช้ระบบ Off-grid ที่ผลิตไฟฟ้าเอง 100% โดยไม่พึ่งพาไฟจากการไฟฟ้าเลยจะไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าไฟ

Powervault ช่วยแก้ปัญหาค่าไฟแพงอย่างยั่งยืน

หลังจากเข้าใจวิธีคิดค่าไฟฟ้าแล้วพบว่าค่าไฟในปัจจุบันช่างแพงเหลือเกิน สิ่งสำคัญคือการมองหาทางแก้ปัญหาค่าไฟแพงอย่างยั่งยืน ระบบโซลาร์เซลล์เป็นหนึ่งในโซลูชันที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

ประโยชน์ของระบบโซลาร์เซลล์:

  • ลดค่าไฟฟ้าได้ 50-90% ขึ้นอยู่กับขนาดระบบ
  • ระยะเวลาคืนทุน 3-5 ปี อายุการใช้งาน 25+ ปี
  • ป้องกันความผันผวนของราคาไฟฟ้าในอนาคต
  • เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน

การคำนวณความคุ้มค่าของโซลาร์เซลล์: จากประสบการณ์ในการติดตั้งมากกว่า 700 โครงการ Powervault มั่นใจว่าจะมอบ Mega Energy Solutions ให้กับลูกค้าของเรา ด้วยการคำนวณการใช้ไฟฟ้าและจุดคุ้มทุนได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้สามารถประหยัดไฟฟ้าได้ในระยะยาว คืนทุนได้ในระยะเวลาที่เร็วที่สุด

ขั้นตอนการประเมินความเหมาะสม:

  1. วิเคราะห์พฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าจากบิล 12 เดือน
  2. ประเมินพื้นที่หลังคาและทิศทางแสงแดด
  3. คำนวณขนาดระบบที่เหมาะสม
  4. เปรียบเทียบต้นทุนและผลลัพธ์ที่จะสามารถประหยัดไฟฟ้าได้

การลงทุนในระบบโซลาร์เซลล์ไม่เพียงแค่ช่วยลดค่าไฟฟ้า แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับธุรกิจของคุณ ด้วยโครงการ PPA Solar จาก Powervault ลงทุน 0 บาทก็สามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้ – พร้อมตรวจสอบหน้างาน ฟรี!! คลิกเลย