ในยุคที่ค่าไฟฟ้าพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากหลากหลายปัจจัย หลายครอบครัวเริ่มมองหาทางเลือกใหม่ในการจัดการพลังงาน หนึ่งในนั้นคือการเปลี่ยนหลังคาบ้านให้กลายเป็น “โรงไฟฟ้าขนาดเล็ก” ที่ไม่เพียงแค่ช่วยลดค่าไฟ แต่ยังสามารถขายไฟให้การไฟฟ้า เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและสร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัวได้อีกด้วย
โครงการขายไฟคืนการไฟฟ้าคืออะไร และทำไมควรสนใจ
โครงการขายไฟคืนการไฟฟ้า หรือที่เรียกกันว่า “โครงการโซลาร์ภาคประชาชน” เป็นนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมให้ประชาชนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้าน เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เองและขายไฟฟ้าส่วนเกินคืนให้กับการไฟฟ้า
สิ่งที่น่าสนใจคือ โครงการนี้ไม่ใช่เพียงแค่การประหยัดค่าไฟ แต่เป็นการสร้าง “แหล่งรายได้” ที่ช่วยคุณประหยัดได้มากขึ้น ทำงานไปตลอด 25 ปี ตามอายุการใช้งานของแผงโซลาร์เซลล์ โดยที่คุณไม่ต้องทำอะไรเลย นอกจากดูแลความสะอาดของแผงเป็นครั้งคราวฃ
ผู้ที่จะขายไฟคืนการไฟฟ้า ต้องมีคุณสมบัติแบบไหน
การเข้าร่วมโครงการขายไฟคืนการไฟฟ้ามีเงื่อนไขที่ชัดเจน ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสมกับบ้านอยู่อาศัยทั่วไป ดังนี้:
- เป็นเจ้าของเครื่องวัดไฟฟ้า: ชื่อในมิเตอร์จำเป็นต้องตรงกับชื่อในบิลค่าไฟฟ้า หากไม่ตรงต้องดำเนินการเปลี่ยนชื่อกับการไฟฟ้าในพื้นที่ของตนก่อน
- เป็นผู้ใช้ไฟประเภทบ้านอยู่อาศัย (ประเภทที่ 1): ระบบ 1 เฟส ติดตั้งได้ไม่เกิน 5 kWp, ระบบ 3 เฟส ติดตั้งได้ไม่เกิน 10 kWp
- เครื่องวัดเป็นทรัพย์สินของการไฟฟ้า: ไม่ใช่มิเตอร์ส่วนตัวหรือของหมู่บ้าน
- มีพื้นที่หลังคาเพียงพอ: ตรวจสอบพื้นที่ให้แน่ใจ อย่างน้อย 30-50 ตารางเมตร สำหรับระบบ 5-10 kWp
Step by Step เส้นทางสู่การเป็นผู้ขายไฟฟ้าโซลาร์เซลล์

ฟังแล้วอาจจะดูยากไปสักนิดที่เราจะขายไฟคืนให้การไฟฟ้าได้ แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะในบทความนี้เราจะแนะนำคุณแบบ Step by Step ทุกขั้นตอนในการเป็นผู้ขายไฟฟ้าโซลาร์เซลล์
1.ศึกษาและเลือกผู้รับเหมาและออกแบบระบบโซลาร์เซลล์
ก่อนจะดำเนินการขั้นตอนอื่น ๆ อันดับแรกที่ตวรทำความเข้าใจคือพื้นที่บ้านของเรา และเลือกบริษัทติดตั้งโซลาร์เซลล์ ให้เหมาะสม ซึ่ง Powervault พร้อมให้คำปรึกษาและตรวจหน้างานฟรี ทำให้คุณสามารถประหยัดเวลาในขั้นตอนนี้ได้
2.เตรียมเอกสารและรายละเอียดที่ใช้สำหรับการลงทะเบียนให้พร้อม
เมื่อตัดสินใจติดตั้งโซลาร์เซลล์ได้แล้ว การเตรียมเอกสารและรายละเอียดที่ใช้ในการลงทะเบียนขายไฟให้การไฟฟ้่าให้เรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็น สำเนาบัตรประชาชน บิลค่าไฟ แบบไฟฟ้า ใบรับรองวิศวกร รูปภาพบนหลังคา รายละเอียดของอุปกรณ์ติดตั้ง ให้เรียบร้อย
3.ลงทะเบียนยื่นคำขอผ่านระบบออนไลน์
ลงทะเบียนยื่นคำขอขายไฟฟ้าผ่านระบบออนไลน์ โดยสำหรับจังหวัด กรุงเทพฯ,นนทบุรี, สมุทรปราการ สามารถยื่นคำขอผ่านระบบ MEA และจังหวัดอื่น ๆ สามารถยื่นคำขอผ่านระบบ PEA
4.รอแจ้งผลพิจารณ์และลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า
หลังจากลงทะเบียนแล้วอาจใช้เวลา 1-3 เดือนในการพิจารณา ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้สมัครในแต่ละชวงเวลา เมื่อผ่านการพิจารณาแล้ว ต้องดำเนินการชำระค่าเชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้า 2,140 บาท (รวม VAT) และลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภายใน 30 วัน หากเกินกำหนดคำขอจะถูกยกเลิกทันที
5.ติดตั้งระบบและตรวจสอบ
เมื่อผ่านการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าและติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์แล้ว การไฟฟ้าจะติดต่อเพื่อเข้ามาตรวจสอบระบบและสายภายในว่าเป็นไปตามแบบที่ยื่นรายละเอียดไว้ว่าตรงกันหรือไม่
6.เปลี่ยนมิเตอร์พร้อมขายไฟให้การไฟฟ้า
ถ้าผ่านขั้นตอนทั้งหมดแล้ว การไฟฟ้าจะเข้ามาเพื่อเปลี่ยนมิเตอร์ไฟฟ้าให้เป็นแบบดิจิตอลพร้อมระบบอ่านค่าหนาวยไฟฟ้าที่สามรถขายคืนได้ และกำหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) โดยยอดการขายไฟจะถูกหักออกจากยอดไฟฟ้าที่ใช้จริง ส่วนต่างจากหน่วยไฟฟ้าที่ใช้จริงจะถูกโอนเข้าบัญชีที่แจ้งไว้ตอนทำสัญญาในราคาหน่วยละ 2.20 บาท (ข้อมูลล่าสุดจากประกาศของ กกพ.)
เงื่อนไขและข้อจำกัดในการขออนุญาติขายไฟฟ้า
- ระบบโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งต้องเป็นระบบ On-Grid เท่านั้น เพราะต้องเชื่อมต่อกับระบบโครงข่ายไฟฟ้า ไม่ใช่ระบบแบตเตอรี่ฃ
- การติดตั้ง และอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน ต้องผ่านการตรวจสอบจากวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า
- ผู้ใช้ไฟฟ้า ระบบ 1 เฟส (220 V) กำลังการผลิตรวมต้องไม่เกิน 5 kWp และผู้ใช้ไฟฟ้าระบบ 3 เฟส (220/380V) ต้องติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ไม่เกิน 10 kWp ซึ่งเป็นขนาดนี้เหมาะสมกับบ้านอยู่อาศัยทั่วไป
- ผู้ขายไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ต้องผ่านการยื่นคำขอและลงนามสัญญาซื้อขายตามขั้นตอนอย่างถูกต้องตามที่การไฟฟ้ากำหนด
ขายไฟฟ้ากับ MEA และ PEA แตกต่างกันหรือไม่ ?
ในทางทฤษฏีแล้วต้องบอกว่าไม่แตกต่างกัน สิ่งที่แตกต่างกันคือพื้นที่ในการให้บริการและระบบการลงทะเบียนโดย MEA จะลงทะเบียนผ่านระบบ My Energy สำหรับพื้นที่ กรุงเทพฯ,นนทบุรี และ สมุทรปราการ ส่วนจังหวัดอื่น ๆ จะลงทะเบียนผ่านระบบ PPIM เท่านั้น แต่จุดสำคัญจริง ๆ คือ ทั้ง MEA และ PEA ใช้หลักการ “มาก่อนได้ก่อน” และมีโควต้าจำกัดในแต่ละปี ดังนั้นหากสนใจควรดำเนินการให้เร็วที่สุด
ติดโซลาร์เซลล์แล้วขายไฟคืนการไฟฟ้าคุ้มไหม ?
ในปี 2568 ถ้าถามว่าติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อขายไฟคืนการไฟฟ้านั้นคุ้มหรือไม่ อาจจะผิดวัตถุประสงค์ไปสักนิด เพราะการที่สามารถขายไฟให้การไฟฟ้าได้นั้น เป็นหนึ่งในผลพลอยได้จากการติดตั้งโซลาร์เซลล์เท่านั้น
แต่ถ้าพูดถึงการลงทุนเพื่อประหยัดไฟฟ้าในระยะยาวแล้ว ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก ๆ นอกจากจะลดค่าไฟฟ้าลงไปได้แล้ว ยังสามารถขายไฟคืนให้การไฟฟ้าได้ แม้จำนวนเงินที่ได้อาจจะดูเหมือนไม่มาก แต่ในระยะเวลา 25 ปี ก็สามารถคืนทุนค่าติดตั้งและได้แหล่งรายได้เล็ก ๆ ไว้ใช้จ่ายได้อีกด้วย
ซึ่งโดยทั่วไปแล้วครอบครัวในไทยจะใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 15kWh – 20kWh ต่อวัน หากคุณติดตั้งโซลาร์เซลล์ 10kW จะสามารถผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 30kWh – 50kWh ต่อวัน จะเห็นได้ชัดเลยว่าไฟฟ้าที่ผลิตได้เกินกว่าค่าเฉลี่ยที่ใช้ต่อวันไปค่อนข้างมาก ถ้าคุณไม่ใช่คนที่ใช้ใช้ไฟฟ้ามากเท่าไหร่และขายคืนได้ 20kWh – 30kWh ต่อวัน เท่ากับว่าต่อเดือนจะสามารถขายไฟฟ้าได้เฉลี่ย 1000 – 1200 บาท ลองคิดเล่น ๆ ว่าขายจนครบ 25 ปี แล้วจะตก 200,000 – 300,000 บาทเลยทีเดียว
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญของ Powervault
ถ้าคุณอ่านมาถึงจุดนี้แล้ว คงเริ่มเห็นถึงความน่าสนใจของการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์กันแล้วอย่างแน่นอน แต่หากยังกังวลว่าติดแล้วจะคุ้มค่าไหม จากประสบการณ์การติดตั้งมากกว่า 700 โครงการของเรา มาลองเช็คดูกันว่าบ้านของคุณควรพิจารณาลงทุนกับระบบโซลาร์เซลล์หรือไม่
- ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเดือนละ 2,000 บาทขึ้นไป
- มีการใช้ไฟฟ้าในช่วงกลางวันสม่ำเสมอ
- หลังคาหันทิศใต้หรือตะวันออก-ตะวันตก
- มีแผนอยู่บ้านหลังนี้อย่างน้อย 10 ปี
ถ้าคุณเป็นคนนึงที่สนใจติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ไม่ว่าจะด้วยจุดประสงค์ในการลดค่าไฟหรือต้องการขายไฟให้การไฟฟ้าก็ตาม อย่ารอช้าติดต่อ Powervault ผู้นำด้านพลังงาน Mega Solution ที่พร้อมดูแลคุณตั้งแต่ต้นจนจบ
การขายไฟให้การไฟฟ้าไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพียงไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้นคุณก็สามารถกลายเป็นผู้ขายไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ได้แล้ว ในวันนี้มีผู้คนมากมายเริ่มต้นกันไปแล้ว แล้วคุณหละ พร้อมสำหรับสิ่งนี้แล้วหรือยัง ?

